วันพุธที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2561

Titan Quest อาชีพ Earth Mastery


Earth

Earth Enchantment
สกิล เปิด/ปิด เมื่อเปิดใช้งานส่งผลให้ตัวละคร และยูนิตในระยะ 6 เมตร ได้รับพรแห่งไฟ เพิ่มความเสียหายด้วยธาตุไฟสูงสุด 100% และสร้างความเสียหายเผาไหม้ 5-8 หน่วย แบบสุ่ม 1-3 วินาที เมื่อเปิดใช้งานจะสูญเสีย Max Mana 75 หน่วย
Brimstone
สกิลเสริมความสามารถสกิล Earth Enchantment เมื่อสกิลทำงานจะเพิ่มความเสียหายทางกายภาพสูงสุด 26% และสร้างความเสียหายเผาไหม้สูงสุด 98 หน่วย ระยะเวลา 3 วินาที
Stone Skin
สกิลเสริมความสามารถสกิล Earth Enchantment เมื่อสกิลทำงานจะช่วยเพิ่มเกราะให้ตัวละครสูงสุด 45 หน่วย และค่าต้านทานธาตุไฟสูงสุด 25%
Volativity
สกิลสุดสายสำหรับ Earth Mastery ที่ทำงานเมื่อคุณสร้างเสียหายด้วยธาตุไฟ มีโอกาส 33% ที่เพิ่มความเสียหายธาตุไฟ สูงสุด 178%
Heat Shield
สร้างเกราะแห่งไฟ ตัวละครได้รับ Damage Absorption สูงสุด 245 หน่วย ป้องกันความเสียหายจากธาตุไฟ และค่าต้านทานความเสียหาย 15%
Stone Form
เรียกพลังแห่งผืนดินสร้าง เปลี่ยนร่างกายให้เป็นหิน ได้รับ Damage Absorption 100% และการฟื้นฟูเลือดสูงสุด  66 หน่วย เป็นระยะเวลา 6 วินาที
Molten Rock
เสริมประสิทธิภาพให้กับสกิล Stone Form เมื่ออยู่ในช่วงผลของสกิลร่างกายที่เป็นดั่งภูผาจะเพิ่มความเสียหายจากเพลิงสวนกลับไปยังเป้ามหายที่โจมตีใส่ตัวละครสูงสุด 15 หน่วยระยะเวลา 2 วินาที
Summon Core Dweller
เรียกผู้อาศัยจากใต้พิภพขึ้นมาช่วยต่อสู้ ในฐานะผู้พิทักษ์แห่งไฟ สร้างความเสียหายสูงสุด 90 หน่วย เลือด 1617 และมานา 304 หน่วย
Inner Fire
เพิ่มพลังให้กับ Core Dweller ได้รับโบนัสความเสียหายไฟสูงสุด 18 หน่วย, เพิ่มค่า Dexterity สูงสุด 50%, เพิ่มอัตราการฟื้นฟูเลือดสูงสุด 80% และความเร็วทั้งหมด ( โจมตี / เคลื่อนที่ / ร่ายเวทย์ ) สูงสุด 17%
Wildfire
ปลดล็อค Core Dweller ให้สามารถใช้สกิล Wildfire สร้างความเสียหายด้วยธาตุไฟสูงสุด 85 หน่วยในระยะ 4 เมตรจากระยะร่าย
Metamorphosis
ปลดผนึกความร้อนระอุจากภายในร่างกายของ Core Dweller เพิ่ม Max Health สูงสุด 45%, เพิ่มเกราะสูงสุด 45%, เพิ่ม Armor Absorption 33% และค่าต้านทานเวทย์สูงสุด 18%
Ring of Flame
สร้างจิตวิญญาณแห่งไฟขึ้นมา 3 ดวงหมุนรอบ จิตวิญญาณแห่งไฟนี้จะเผาพลาญซัตรูโดยรอบในระยะสูงสุด 3.3 เมตร สร้างความเสียหายด้วยธาตุไฟสูงสุด 38 หน่วย
Soften Metal
เพิ่มความสามารถให้กับสกิล Ring of Flame สร้างความเสียหายด้วยธาตุไฟเพิ่มสูงสุด 23 หน่วย ลดพลังโจมตีทางกายภาพสูงสุด 15 หน่วย และลดเกราะลงสูงสุด 65 หน่วย เป็นระยะเวลา 3 วินาที
Flame Surge
ปลดปล่อยเพลิงกาล 3 ลูกออกไปข้างหน้าด้วยความรวดเร็ว สร้างความเสียหายด้วยธาตุไฟสูงสุด 43-59 หน่วย
Barrage
เพิ่มความสามารถให้กับสกิล Flame Surge ด้วยการลด recharge ลง 100% เพิ่มโอกาส 80% ในการยิงลูกไฟทะลุเป้าหมายไปยังเป้าหมายที่อยู่ด้านหลัง และทำให้เป้าหมายติดสถานะเผาไหม้สร้างความเสียหายด้วยธาตุไฟสูงสุด 66 หน่วย ระยะเวลา 3 วินาที
Flame Arch
เพิ่มความสามารถให้กับสกิล Flame Surge ด้วยการเพิ่มจำนวนลูกไฟสูงสุด 3 ลูก และเพิ่มความเสียหายธาตุไฟของจากผลของสกิล Flame Surge สูงสุด 55%
Volcanic Orb
ปล่อยลูกเพลิงเหมือนดั่งภูเขาไฟระเบิดลงไปยังเป้าหมายของสกิลสร้างความเสียหายธาตุไฟสูงสุด 91-128 หน่วย และสร้างความเสียหายหลักสูงสุด 55 หน่วย ในระยะสูงสุด 2.5 เมตร
Conflagration
เพิ่มระยะการระเบิดของสกิล Volcanic Orb สูงสุด 3 เมตร และทำให้ยูนิตในระยะได้รับสถานะเผาไหม้ สร้างความเสียหายธาตุไฟสูงสุด 48 หน่วย ระยะเวลา 3 วินาที
Fragmentation
เสริมความสามารถให้กับสกิล Volcanic Orb เมื่อผลของสกิลทำงาน ( เมื่อสกิลลงพื้น และระเบิด ) จะเกิดลูกไฟจำนวนสูงสุด 7-13 ลูกกระจายออกในระยะ 3 เมตร สร้างความเสียหายสูงสุด 126 หน่วย สร้างความเสียหายธาตุไฟสูงสุด 59 หน่วย และทำให้ยูนิตในระยะของสกิลติดสถานะ Stund 1.5 วินาที
Eruption
สร้างรอยแยกจากพื้นพสุธา เรียกลูกไฟจำนวนสูงสุด 5-6 ลูกจากใต้พื้นดิน เผาพลาญศัตรูในระยะ 3 เมตร สร้างความเสียหายสูงสุด 98 หน่วย และสร้างความเสียหายธาตุไฟสูงสุด 95-112 หน่วย เป็นะระยะเวลา 6 วินาที
Earth Mastery Skill Tree

แนวทางการเล่น

สำหรับแนวทางการเล่นอาชีพ Earht Mastery สามารถเล่นได้ทั้งนักเวทย์ และนักรบ เป็นอิสระทางการเล่นแบบสุดๆ สกิลส่วนใหญ่ของอาชีพ Eart Mastery เน้นรูปแบบการสร้างเสียหายด้วยธาตุไฟ และการป้องกัน สกิลหลักๆ ที่เน้นให้อัพ คือ Volativity สกิลนี้เป็นหัวใจหลักของอาชีพนี้เลย เพราะจะช่วยเพิ่มความเสียหายที่เกิดจากธาตุไฟทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นจากอาวุธ หรือแม้แต่จากสกิล รวมไปถึงทุกๆ ความเสียหายที่เกิดจากการเผาไหม้เช่นกัน ดังนั้นไม่ควรพลาดที่จะอัพสกิลนี้จนเต็ม
สำหรับแนวทางกรเล่นสายนักรบ สกิลที่ควรอัพได้แก่ สกิลสาย Earth Enchantment และ Brimstone ส่วนสกิล Stone Skin นั้นเป็นสกิลทางเลือก แต่ถ้าอัพจะได้รับค่าต้านทานธาตุไฟสูงสุด 25% แต่ส่วนตัวแล้วใช้สกิลพ้อย 10 หน่วยแน่ะค่อนข้างเปลือง และถือว่าไม่ค่อยคุ้ม และสกิล Volativity ตามมาเมื่อเลเวลถึงแล้ว สกิลอื่นๆ ยังไม่ค่อยแนะนำมากนัก เพราะค่อนข้างไม่มีประโยชน์ หรือใช้ยากในชีวิตจริง อยากรู้ต้องลองอัพเอง อาทิ เช่น Heat Shield ที่ดูเหมือนจะดี แต่ถึงจะอัพเต็มขั้น แต่ไม่นานโดนรุมเกราะไฟที่เราสร้างไว้ก็หายไปในพริบตา เห็นผลไม่ค่อยชัดเจนเมื่อต้องเสียพ้อยไปอัพถึง 12 หน่วย อีกสกิลที่ไม่แนะนำเลย คือ Stone Form จริงๆ แล้วผลของสกิลมันดี เพราะเพิ่ม Damage Absorption ถึง 100% แต่น่าเสียดาย มันได้แค่ 6 วินาที ใช้พ้อยในการอัพทั้งหมด 20 หน่วย สกิลอื่นๆ ที่ไร้สาระยังมีอีกเยอะ แนะนำว่าอัพแค่เท่าที่กล่าวไปจากนั้น นำพ้อยที่เหลือไปอัพสกิลผสมน่าจะดีกว่าสำหรับ อาชีพที่แนะนำหลักๆ เลย คือ Dream ( Evoker ) เพราะยังมีสกิลดีๆ รออยู่ สามารถเลือกอัพซัมมอนดีๆ ได้หนึ่งอย่างระหว่าง Summon Core Dweller หรือ Nightmare หรือจะเอาไปอัพ Distoration Wave แทนก็ได้หากไม่ต้องการเพื่อนร่วมทาง อีกหนึ่งอาชีพที่น่าผสม คือ Defender ( Juggernuat )
สำหรับแนวทางการเล่นในสายเวทย์นั้น สามารถเล่นได้เหมือนกัน สกิลส่วนใหญ่ไม่ได้แย่มาก สกิลเด่นๆ ที่น่าสนใจ แน่นอนคงไม่พ้นสกิล Eruption และสกิล Volativity เป็นสองสกิลที่มีประโยชน์ และใช้งานได้ดี แนะนำให้อัพให้เต็มก่อน จากนั้นถึงค่อนตัดสินใจเลือกอัพสกิลอื่นๆ อีกที แนะนำสองตัวเลือกที่พอใช้งานได้ Volcanic Orb และ Summon Core Dweller นอกนนั้นยังไม่ค่อยคุ้มค่ากับพ้อยที่เสียไปเท่าไหร่ แต่ถ้าเล่นสายเดี่ยวไม่ผสม สามารถอัพสกิล Flame Surge และ Ring of Flame ได้ รวมไปถึงสกิล Earth Enchantment
แต่ถ้าเลือกที่จะเล่นสายผสม ยังคงแนะนำ Dream ( Evoker ) เป็นตัวเลือกแรก เพราะ Dream Mastery นั้นมีออร่า ฟื้นฟูเลือด และมานา แนวทางการเล่น Evoker แบ่งออกได้ 2 รูปแบบ
สาย Summon / Spell สำหรับสายนี้ สามารถเลือกทางเลือกการอัพได้อีกสองแบบ ขึ้นอยู่กับความชอบ
สาย Trail blazers (สายเดินเผา) สำหรับสายนี้เป็นสายที่เหมาะกับคนที่ขี้เกียจตีมอนสเตอร์ สามารถเดินผ่านเพื่อสร้างความเสียหายด้วยไฟ และไฟฟ้าได้ โดยไม่ต้องกดตี เดินๆ เอาตัวชนไปเรื่อยๆ ง่ายดี แต่สำหรับระดับความยากที่ Legendary ต้องปรับตัวกันเยอะเลย ไม่ไช่ปัญหาเพราะเรา Re-Skill ได้ (ฮา)
สาย Elementalist สำหรับขาโหดที่ต้องการเล่น Spell ล้วนๆ สร้างความเสียหายด้วย ไฟ น้ำแข็ง และสายฟ้า ก็จัดไปตามนี้เลย
ส่วนตัวแล้วการที่จะเลือกอาชีพ Earth Mastery นั้น มีโอกาสน้อยมากที่ผมจะเลือกเล่น แต่สกิลที่ดึงดูดผู้คนส่วนมากให้มาเล่นอาชีพนี้ ก็คือ จะได้เรียกซัมม่อนที่มีระดับความเก่งเป็นอันดับที่ 3 นับจากซัมม่อนทั้งหมด ทำให้หลายๆ คนเลือกที่จะรอจนเลเวลถึง แล้วอัดพ้อยลงไปที่เจ้า Dweller อย่างไม่คิดชีวิต ซึ่งมันก็มีความเก่งพอตัว แต่ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่ไปเจอกับพวกนักเวทย์ที่มีความสามารถในการควมคุมซัมม่อนของเราแล้วล่ะก็ จบไม่สวยแน่นอน เพราะจะต้องโดนลูกน้องตัวเองไล่กระทืบ แถมยังไม่มีสกิลอะไรไปสู้อีกด้วย และก็จบการแนะนำสกิล รวมถึงแนวการเล่นกันแล้ว ผิดถูกประการใดขอฝากมาณที่นี้ด้วยครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

https://www.facebook.com/TitanQuestThailand >> Like << แหล่งชุมชนสำหรับคนไทยที่เล่นเกม Titan quest