
สกิลพื้นฐานที่ไม่ควรพลาดเพราะเป็นสกิลติดตัวที่เพิ่ม Offensive Ability และ Attack speed ส่งผลให้คุณสามารถสร้างความเสียหายได้มากขึ้น โจมตีเร็วขึ้น และติด Critical บ่อยขึ้น สกิลนี้มีประโยชน์ตลอดการเดินทาง ตั้งแต่เริ่มจนถึงระดับ Legendary เพราะมีผลของสกิลเพิ่มเป็น %
Dual Wield
สกิลติดตัวสำหรับสายถืออาวุธสองมือ สกิลนี้มีไว้เพื่อให้ตัวละครมีโอกาสโจมตีด้วยอาวุธทั้งสองมือพร้อมกัน ปกติแล้วเมื่อถืออาวุธสองมือ จะโจมตีด้วยอาวุธหลักเท่านั้น เมื่อผลสกิลนี้ทำงานถึงจะตีด้วยอาวุธรองพร้อมกัน ความเสียหาย และผลจากอาวุธรองถึงจะทำงาน เช่น อาวุธรองมีผลตีแล้วติดพิษ เอฟเฟ็คนี้จะทำงานก็ต่อเมื่อสกิล Dual Wield ทำงานนั่นเอง
Hew
เป็นสกิลเสริมความสามารถของ Dual Wield เมื่อทำงานจะช่วยเพิ่มความเสียหายให้อีก 50%
Cross Cut
เมื่อสกิลทำงานสร้างความเสียหายเป้าหมายของสกิล 2 ตัว โดยการโจมตีรูปแบบกรรไกร เป้าหมายจะติดสถานะ Bleeding 5 วินาที
Tumult
เมื่อทำงาน สร้างความเสียหายเป้าหมายของสกิล 3 ตัว โจมตีในรูปแบบกระโดดสับ เป้าหมายจะติดสถานะ Bleeding 5 วินาที และติด Stun 1 วินาที
*** หมายเหตุ การทำงานของสกิล Dual Wield, Cross cut, Tumult จะทำงานแยกกัน สามารถดูได้จากรูปแบบการโจมตี ขึ้นอยู่กับโอกาสในการทำงานของแต่ละสกิล ไม่ได้เอามารวมกัน นั่นแปลว่ามีโอกาสที่จะติด Dual Wield แล้วตามด้วย Cross cut เพื่อสร้างรูปแบบการโจมตีที่แตกต่างกันออกไป และมีโอกาสในการสร้างความเสียด้วยสกิลของสายนี้มายิ่งขึ้น
Battle Rage
ทำงานเมื่อถูกโจมตี จะเข้าสู่สถานะ Rage ได้รับค่า Offensive Ability 50% และเพิ่มความเสียหายประเภท Physical ระยะ 8 วินาที
Crushing blow
เมื่ออยู่ในสถานะ Rage มีโอกาสที่จะสร้างความเสียหายมากขึ้นสูงถึง 217 หน่วย
Counter Attack
เมื่ออยู่ในสถานะ Rage มีโอกาสที่จะสร้างความเสียหายกลับหามอนสเตอร์ที่โจมตีมากขึ้นสูงถึง 108 หน่วย
*** หมายเหตุ น่าเสียดายที่สกิลนี้ ไม่ค่อยมีประโยชน์มากนัก เพราะสกิลสายนี้ส่วนใหญ่เพิ่มความเสียหายในรูปแบบหน่วยไม่ไช่ % ท้ายเกมส์ในระดับ Legendary ไม่ค่อยช่วยอะไรมากนัก ที่น่าสนใจ คือ Battle Rage ที่เพิ่ม Offensive Ability 50% นับว่าดีอยู่ แต่เลเวลของสกิลที่เพิ่มแค่เพียง ความเสียหาย Physical อัพไว้แค่ 1 ถ้าคุณต้องการสกิลนี้
Dodge Attack
เป็นสกิลตัดตัวที่เพิ่มโอกาสหลบหลีกการโจมตีของศัตรูสูงสุด 21% เป็นสกิลที่ดี ช่วยทำให้คุณตายยากขึ้นมานิดหนึง
Battle standard
ปักธงสงครามเพิ่ม offense ability สูงสุด 88 หน่วย, เพิ่ม Damage Absorption 36% และ +1 ให้กับสกิลทั้งหมดของยูนิตในระยะ 12 เมตร
Triumph
เพิ่มความสามารถของธงสงคราม ลดความเสียหาย Physical และค่าต้านทานความเสียหายสูงสุด 40% รวมถึงลดค่าต้านทานการติดสถานะ Stun 50%
*** หมายเหตุ สกิลในสายปักธง ส่วนใหญ่เกือบจะดี แต่น่าเสียดายที่ธงมันเดินไม่ได้ เหมาะใช้ปักตอนเจอบอส เพราะจะช่วยลดค่าต้านทานต่างๆ ทำให้ตัวบางลง แถมยังบวกสกิลให้อีก 1 เลเวล แต่ก็นั่นแหละครับ มันเดินไม่ได้ จึงป่วยการจริงๆ ที่จะเสีย Point ไปอัพถึง 16 หน่วย
Onslaught
เมื่อกดใช้งาน หรือใช้ในรูปแบบการโจมตีปกติ เพิ่มความเสียหายสูงสุด 50% ระยะเวลาขึ้นอยู่กับจำนวน charge สูงสุด 8 ระยะเวลา 1.5 ต่อ charge
Ignore pain
เมื่ออยู่ในสถานะของ Onslaught จะได้รับค่าต้านทาน ความเสียหายทางกายภาพ และความเสียหายเจาะเกาะสูงสุด 15%
Hamstring
เมื่ออยู่ในสถานะของ Onslaught การโจมตีของคุณจะลดเกราะ และค่า Defensive Ability สูงสุด 28 หน่วย และยังสามารถลดความเร็วในการเคลื่อนของเป้าหมายได้สูงสุดถึง 33%
Ardor
เมื่ออยู่ในสถานะของ Onslaught เพิ่มความเร็วในการโจมตี และความเร็วในการเคลื่อนที่สูงสุด 15%
*** หมายเหตุ เป็นสกิลแนะนำเลยสำหรับอาชีพนี้ เพราะสกิลทั้ง 4 ในสายนี้จะช่วยส่งผลในเรื่องของความเสียหายในรูปแบบ % รวมถึงการเพิ่มความเร็วต่างๆ ใช้มานาน้อย ได้ผลดี ไม่ผิดหวังที่จะยอมเสีย Point เพื่ออัพสกิลในสายนี้
War Wind
สกิลกดใช้งาน โดยการเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว 300% ไปหาเป้าหมาย เมื่อถึงเป้าหมายจะทำการระบำโจมตีเป้าหมาย 4 ตัวด้วยความเสียหายของตัวละครทั้งหมด บวก 10 หน่วยของสกิล
Lacerate
เสริมความสามารถให้สกิล War Wind โดยเป้าหมาย 2 ใน 4 จะได้ติดสถานะ Bleeding 3 วินาที
*** หมายเหตุ War Wind และ Lacerate เป็นสกิลที่บอกเลยว่า ไม่ค่อยจะใช้งานได้จริง แถมยังใช้มานาเยอะอีกต่างหาก ลืมไปได้ว่าจะอัพสกิลนี้
War Horn
เป่าแตรสงคราม ทำให้ศัตรูในระยะ 8 เมตรติดสถานะ Stun สูงสุดถึง 6.5 วินาที
Doom Horn
เพิ่มประสิทธิภาพให้กับพลังของการเป่าแตรศึก สร้างความเสียหายในรูปแบบลดเลือดเป้าหมาย สูงสุด 25% และลดเกราะ 33 หน่วย ระยะเวลา 10 วินาที
*** หมายเหตุ สกิล War Horn และ Doom Horn ไม่ไช่สกิลที่ดี และก็แย่จนเกินไป น่าเสียดายตรงที่ stun ไม่ค่อยมีผลกับมอนสเตอร์ประเภทหัวหน้า จึงต้องบอกผ่านสกิลนี้ไปแบบไม่ต้องคิดมาก
Ancestral Horn
เป่าแตรสงครามขอความช่วยเหลือ เหล่าวิญญาณบรรพชน สูงสุด 5 ดวงวิญญาณ มาช่วยต่อสู้ วิญญาณบรรพชนมีเลือดสูงสุด 1000 หน่วย พลังโจมตีสูงสุด 174 หน่วย
*** หมายเหตุ เป็นสกิลที่เอฟเฟคดี แต่ไม่ค่อยมีประโยชน์มากนัก เนื่องจากใช้มานา และ point ในการอัพค่อนข้างเยอะบางทีถ้าไม่ได้เล่นสาย Summon แทบจะไม่ได้อัพเลย

แนวทางการเล่น
สำหรับอาชีพ Warrior หรือ Warfare Mastery นั้นเป็นอาชีพที่เน้นไปทางด้านการสร้างความเสียหายทางกายภาพ ( Physical damage ) เป็นหลัก และเป็นอาชีพที่เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มต้นเกมส์ Titan Quest เพราะเล่นง่าย และมีสกิลที่ไม่ซับซ้อน หรือต้องกดใช้งานเยอะ แทบจะไม่มีให้กดเลย สกิลส่วนใหญ่เป็นสกิลติดตัว ( Passive ) น่าเสียดายที่อาชีพนี้เล่นง่ายในช่วงต้นเกมส์ แต่กลับเล่นยากในช่วงท้ายเกมส์ เพราะมีพลังในการป้องกันที่ค่อนข้างน้อย จริงอยู่ที่ว่าสามารถสร้างความเสียหายได้มาก แต่ไม่ไช่อาชีพที่จะไปยืนลุยได้ มักจะดับอนาถเมื่อถูกรุมด้วยมอนสเตอร์จำนวนเยอะๆ โดยเฉพาะมอนสเตอร์ประเภทยิงไกล ที่สร้างความเสียหายเจาะเกราะ หรือนักเวทย์ที่สร้างความเสียหายด้วยธาตุต่างๆสิ่งที่โดดเด่นของอาชีพ Warfare คือ ทักษะการโจมตีด้วยอาวุธในมือทั้งสองข้าง ด้วยลักษณะการโจมตี 3 แบบหลักๆ หลังจากอัพสกิลจะครบแล้ว โดยแยกโอกาสการทำงานกันเพื่อสร้างความต่อเนื่องในการโจมตีด้วยอาวุธรอง เวลาคุณเล่นจะสังเกตได้จากท่าโจมตี รวมไปถึงสกิลที่คอยสนับสนุนในเรื่องของการสร้างความเสียหายเป็นจำนวนมาก แต่ก็นั่นแหละพลังโจมตีส่วนใหญ่เป็นความเสียหายทางกายภาพ เวลาไปเจอพวกมอนสเตอร์ที่มีเกราะหนาๆ หรือ ค่าต้านทานความเสียหายสูงๆ ก็แทบจะตีไม่เข้าเป็นเหตุให้น็อคเอ้าท์ได้ในช่วงปลายๆ ก่อนจะจบเกมส์
ทางแก้ที่ดีที่สุด คือ การผสมกับกับอาชีพอื่นๆ ขอแนะนำทางเลือกที่ดี 2 ตัวเลือก
ผสมกับ Defend Mastery เพื่อเล่นเป็น Conqueror เมื่อเดินทางมาสายนี้ สิ่งที่อยากแนะนำ คือ เล่นสายโล่เป็นหลัก บอกลาสายสองมือไปได้เลย นั่นเพราะ Defend Mastery มีสกิลที่ทำให้โล่ของคุณใช้เป็นอาวุธอีกข้างได้ แถมยังมีความสามารถในการบล็อคความเสียหาย และช่วยคุณป้องกันความเสียหายได้ดีกว่าการถืออาวุธอีกข้าง แก้ทางการถูกรุมได้ดี และลดการกดขวดเลือดได้ไม่น้อย ด้วยสกิล Adrenaline rush
อีกทางเลือก คือ ผสมกับ Dream Mastery เพื่อเล่นเป็น Harbinger เมื่อคุณเลือกเล่นผสมกับ Dream บอกลา Onslaught ไปได้เลย เพราะ Dream มีสกิล Psionic Touch ที่สร้างความเสียหาย Vitality และอัพเกรดต่อไปเพื่อสร้างความเสียหายด้วย Electric burn ได้อีกแรงได้อีก รวมถึงสกิลต่างๆ ที่ช่วยสร้างความเสียหาย ออร่าเพิ่มเลือด ผมแนะนำว่าเล่นกับ Dream น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้เริ่มเล่นใหม่ๆ เพราะยังคงช่วยหนุนสายสองมือได้อยู่
ทางเลือกที่แย่ที่สุด และไม่แนะนำให้ผสมเลย คือ ผสมกับ Rouge ถึงแม้ว่าสาย Rouge Mastery จะเน้นสร้างความเสียหายเพิ่ม และมีกับดักต่างๆ แต่ก็ไม่ได้ช่วยลดจุดอ่อนในด้านป้องกันได้เลย ตายเท่าง่ายขึ้นเท่าเดิม
ทางแก้ขั้นที่สองอย่งไรก็ตาม ควรจะหาไอเท็มดูดเลือด เสริมต้านทานเวทย์ ต้านทานความเสียหายด้านต่างๆ ไว้ให้เยอะๆ เพราะมอนสเตอร์ในเกมส์นี้รุมแบบไม่มีนีรอ ไล่ล่าอีกต่างหาก ยากที่จะลุยกับมันแบบเดี่ยวๆ
สำหรับการเล่นสายสองมือ ที่กล่าวไปไม่ไช่ว่ามันไม่ดี แต่เพียงแค่ไม่เหมาะสำหรับผู้เริ่มเล่นใหม่ เนื่องจากจำเป็นต้องรู้จักมอนสเตอร์ในเกมส์ให้ดี เพราะว่าเราจำเป็นต้องสังหารมอนสเตอร์ที่สร้างความเสียหายเยอะซะก่อน ตามสเต็ปของนักฆ่าต้องอาศัยทักษะการเล่นนิดหน่อย มันจึงยากเกินไปถ้าเราตายบ่อยๆ คงจะทำให้คุณเบื่อหน่ายเกินจะเล่นต่อไป
Titan Quest Th: Titan Quest อาชีพ Warfare Mastery >>>>> Download Now
ตอบลบ>>>>> Download Full
Titan Quest Th: Titan Quest อาชีพ Warfare Mastery >>>>> Download LINK
>>>>> Download Now
Titan Quest Th: Titan Quest อาชีพ Warfare Mastery >>>>> Download Full
>>>>> Download LINK